อยากเปิดคลินิกความงาม จะเริ่มต้นยังไง

คลินิกเสริมความงามเป็นกิจการทำเงิน ที่ใครๆ ก็อยากโดดเข้ามาทำธุรกิจนี้ คนที่อยากจะทำธุรกิจนี้ส่วนใหญ่ก็คือคนที่ชอบใช้คลินิกเสริมความงามเป็นประจำ หรือทำงานอยู่ในวงการนี้ จนเกิดไอเดียอยากหันมาทำเอง มีความชอบเป็นส่วนตัวอยู่แล้วว่าอยากทำคลินิกแบบไหน

คนที่อยากจะเปิดคลินิกความงามก็แบ่งเป็นสามประเภท

ประเภทแรกที่มีมากที่สุด ก็คืออยากลงทุนน้อยๆเปิดคลินิกกึ่งร้านเสริมสวย ที่มีบริการแบบเบสิคเช่น ฉีดสาร ทำร้อยไหม และทำทรีทเมนท์ผิวต่างๆ ที่มีราคาไม่แพง

ส่วนแบบที่สองคือมีทุนมากต้องการลงทุนทำคลินิกระดับไฮเอนด์ จับลูกค้าตลาดบนที่มีกำลังซื้อมีบริการหลากหลาย หรือเป็นคลินิกเฉพาะทาง มีแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงประจำคลินิกและอยู่ในทำเลดี มีเครื่องมืออุปกรณ์ใหม่ๆ และ มีงบการตลาดสูง เรียกว่ามีความพร้อมด้านการเงินที่จะใช้บุกตลาดอย่างเต็มที่

และแบบที่ 3 คือกลุ่มคุณหมอที่มีประสบการณ์ทำงานในคลินิกเสริมความงามและต้องการหันมาลงทุนทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะทำคลินิกให้บริการตามความชำนาญของตัวเองและมีฐานลูกค้าที่เป็นแฟนคลับติดตามมาใช้บริการ คลินิกแบบนี้คุณหมออาจจะลงทุนเองหรือมีนายทุน ซึ่งขนาดของคลินิกก็อาจจะมีทั้งเล็กหรือใหญ่ก็ได้

แต่คลินิกความงามจะทำแบบไหนก็ตาม ลงทุนเริ่มต้นทำต้องใช้เงินมากทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น คลินิกผิวหนังที่มีสารพัดการรักษาและทรีทเม้นต่างๆ  มีคลินิกลดไขมัน ลดความอ้วน คลินิกทำศัลยกรรม หรือคลินิกที่ทำทุกอย่างที่ว่ามานี้รวมกัน ทำให้งบลงทุนมีเริ่มตั้งแต่หลักล้านต้นๆ จนถึงหลายสิบล้าน ก็เป็นไปได้

แต่การทำธุรกิจนี้จะกำมาแต่ทุนและไอเดียยังไม่พอ

ไม่ว่าจะทุนน้อยหรือทุนหนาต้องเริ่มด้วยการวางแผนธุรกิจก่อน

การสร้างแผนธุรกิจ มีความสำคัญสำคัญเพราะจะเป็นตัวบอกว่า ไอเดียที่มีนี้ทำได้จริงหรือไม่ ต้องใช้ลงทุนเท่าไหร่ และที่สำคัญที่สุดคือจะคืนทุนเมื่อไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าลงทุนแบบมีหุ้นส่วน ต้องทำแผนธุรกิจให้มีความชัดเจน ก่อนตกลงกันเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อพิพาทภายหลัง

เป็นเรื่องปกติที่เมื่อทำแผนการลงทุนแล้วพบว่าธุรกิจมีโอกาสทำกำไรน้อยมีความเสี่ยง จนต้องกลับลำไปคิดมาใหม่หรือ เปลี่ยนใจไม่ทำดีกว่า เซฟเงินไปได้หลายล้านทันที

แล้วจะเริ่มทำแผนธุรกิจและแผนลงทุนยังไง

เรื่องแรกที่สำคัญที่สุดและต้องทำในการวางแผนการลงทุนคือการศึกษาตลาด ให้มีความเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะข้อมูลของตลาดจะกำหนดโครงสร้างการลงทุนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ จัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ การจ้างบุคลากร รวมถึงเงินหมุนเวียนที่ต้องใช้ในการทำธุรกิจ

การศึกษาตลาด ฟังดูยากหรือว่าดูเป็นวิชาการแต่  ถ้าพูดง่ายๆแบบภาษาชาวบ้านก็คือการศึกษาหาข้อมูลผู้ซื้อและผู้ขายและปัจจัยแวดล้อม ในทำเลที่ต้องการเปิดคลินิก เพื่อหาข้อสรุปว่าถ้าเปิดคลินิกไปแล้วจะมีโอกาสทำเงินแค่ไหน

ต้องมีข้อมูลว่า ในทำเลที่จะเข้าไปทำจะมี ผู้มาใช้บริการของเราจำนวนมากแค่ไหน มีกี่จำพวก มีความต้องการบริการอะไรบ้าง ลูกค้ามีพฤติกรรมการซื้อยังไง และที่สำคัญที่สุดคือมีกำลังซื้อแค่ไหน

อันต่อมาต้องหาว่าผู้ขายหรือคลินิกที่เป็นคู่แข่งมีจำนวนมากแค่ไหน มีบริการอะไรบ้าง ราคาเท่าไหร่ ประเมินได้ไหมว่ามีรายได้ และกำไรเท่าไหร่ หากขายดีมีลูกค้ามาก เรามีศักยภาพหรือมีความแตกต่างที่จะแชร์ตลาดได้อย่างไร มีบริการอะไรที่เขาไม่ทำแล้วเราจะไปเติมตลาดได้

เมื่อเราศึกษาตลาดจนมีมีข้อมูลครบ เราก็สามารถที่จะวางแผนได้ว่าจะทำคลินิกรูปแบบไหน จะขายบริการอะไร มีอะไรเป็นจุดขายของคลินิก การจะตั้งงบประมาณสร้างคลินิก ซื้ออุปกรณ์ วางแผนจ้างบุคลากรต่างๆ การประเมินรายได้และรายจ่ายก็เป็นเรื่องง่าย เพราะมีแผนที่อิงกับข้อมูลตลาดในการทำธุรกิจ

การลงทุนทำคลินิกแบบตามใจฉัน จะทำให้วางแผนทำโครงสร้างธุรกิจไม่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ไปอยู่ผิดที่ ขายบริการที่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด ส่งผลกับงบลงทุนและรายได้ในระยะยาว อย่าข้ามขั้นตอน ไปทำอย่างอื่นก่อนเช่นไปหาซื้อหรือเช่าที่ทาง ไปซื้อเครื่องมือ หรือมองหาแพทย์ประจำคลินิก เมื่อมีแผนพร้อมเมื่อไหร่กำเงินไปซื้อได้ทันทีไม่ยากอะไร

ตัวเลขงบลงทุนอย่างคร่าวๆ ที่ได้ข้อมูลจากเจ้าของคลินิกผู้มีประสบการณ์ การทำคลินิกความงามระดับมาตรฐานในปัจจุบัน ควรมีงบประมาณ 10 ล้านบาท จึงจะถือว่าปลอดภัย

คลินิกความงามที่ติดตลาดก็จะทำกำไรดีและถอนทุนทุนเร็วมาก การทำธุรกิจนี้ต้องรอบคอบ เพราะมีต้นทุนในการดำเนินการสูง และมีคู่แข่งมาก ต้องศึกษาตลาด และทำแผนธุรกิจอย่างละเอียด หากได้ผู้มีประสบการณ์มาช่วย หรือมีที่ปรึกษามืออาชีพจะประหยัดเวลาเรียนรู้ธุรกิจ จะลดต้นทุนและความเสี่ยงได้มาก