5 ข้อต้องรู้ เปิดคลินิกความงามไม่ให้เจ๊ง

5 ข้อต้องรู้ เปิดคลินิกความงามไม่ให้เจ๊ง

ตลาดคลินิกความงามมีการแข่งขันรุนแรง มีคลินิกอยู่ทั่วไป ทำให้คลินิกแข่งกันเจ๊งกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีคนอยากลงทุนทำธุรกิจนี้

ทุกวันนี้เป็นยุคทองของคลินิกเสริมความงามเป็นธุรกิจที่น่าลงทุน อีกทั้งแนวโน้มตลาดก็ยังเติบโตต่อเนื่อง ถึงแม้อาจจะไม่ร้อนแรงมากเหมือนแต่ก่อน แต่ใครที่เข้ามาลงทุนหากทำเก่งก็ยังมีโอกาสทำเงินดีๆรออยู่อีกมาก

ตลาดคลินิกความงามมีการแข่งขันรุนแรง มีคลินิกอยู่ทั่วไป ทำให้คลินิกแข่งกันเจ๊งกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีคนอยากลงทุนทำธุรกิจนี้

หากใครอยากลงทุนเปิดคลินิกความงาม ศึกษา 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนลงทุนคลินิกความงามเพราะเป็นธุรกิจใช้เงินลงทุนไม่น้อย  ต้องไม่เสี่ยงแบบหลับหูหลับตาไม่อย่างนั้นโอกาสที่ธุรกิจไปรอดเท่ากับศูนย์

ข้อ 1 ตลาดเติบโตแต่ก็มีคลินิกเปิดใหม่แข่งกันล้นตลาด

มีคลินิกมากมายที่ขายบริการพื้นฐานที่เหมือนๆกัน หรือมีการรักษารูปแบบที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีคลินิกเจ้าเก่าแบรนด์ใหญ่ๆ ซึ่งก็ให้บริการเบสิคเหล่านี้เหมือนๆกัน แต่มีความได้เปรียบและโดดเด่นกว่าเพราะมีเงินลงทุนซื้อเครื่องมือระดับไฮเอนด์ และเทคนิกการรักษาเทรนด์ใหม่ๆ รวมถึงมีหมอดัง แถมตั้งยังราคาขายไม่แพงเพื่อดึงดูดลูกค้า และสกัดคู่แข่งคลินิกอื่นไม่ให้เข้ามาแชร์ตลาดได้ง่ายๆ

ดังนั้นชั่วโมงนี้ก่อนลงทุน ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกทำบริการให้โดนตลาดมีคุณค่าที่แตกต่างให้กับลูกค้า สร้างพื้นที่ยืนในตลาดให้กับตัวเองอย่างรอบคอบก่อนจะโดดลงเข้ามาทำธุรกิจนี้

ข้อ 2 ต้องศึกษาตลาดทำแผนธุรกิจก่อนลงทุน

เปิดคลินิกไปแล้วค่อยทำการตลาดตามหลัง ไม่ศึกษาความต้องการผู้บริโภคแต่ต้น มองแต่ว่าตลาดกำลังโต ขี่กระแสทำตามๆคนอื่นไป ไม่มีจุดขาย หรือความแตกต่าง ทำให้หาลูกค้าไม่ได้  ต้องเน้นทำโปรโมชั่นลดราคาหนีตาย คลินิกในตลาดแปดสิบ เก้าสิบเปอร์เซนต์มีปัญหาแบบนี้  หมอที่เก่งๆดังๆ อยู่คลินิกใหญ่แล้วหันมาเปิดคลินิกของตัวเองแต่ไม่มีลูกค้า ขาดทุนย่อยยับตกม้าตายกันเยอะแยะ

อยากทำคลินิก ไปดูไปศึกษาคลินิกเหล่านี้เป็นตัวอย่างก่อนได้ ไม่ต้องลองผิดลองถูก ก่อนลงทุน จะต้องทำแผนธุรกิจโดยใช้การตลาดนำ เพราะทำไปแล้วมาตามแก้ทีหลังจะเสียเวลาและเงินมาก

ข้อ 3 ต้องมีจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง

นักมวยเก่งๆยังต้องเลือกคู่ชก เลือกไม่ดีถึงไม่แพ้ก็เจ็บตัวมาก จะทำการค้าก็ต้องเลือกสนามจะได้ไม่เหนื่อย คู่แข่งแชร์ตลาดคลินิกความงามหลักจะมีสองกลุ่มใหญ่ที่ต้องศึกษา

คู่แข่งกลุ่มแรกคือ – คลินิกเจ้าเก่าที่อยู่ในวงการมานาน มีประสบการณ์ มีทีมงานทำตลาดจนแบรนด์มีชื่อเสียงจะมีความได้เปรียบ  ผู้บริโภคคุ้นเคย มีความน่าเชื่อถือ  และงบการตลาดสูง นอกจากนี้ยังบริหารต้นทุนได้ดีกว่าเพราะมีอำนาจต่อรองกับซัพพลายเออร์สูง ทำให้สามารถตั้งราคาขายได้ไม่แพง ทำให้แข่งขันได้ยาก ต้องลงทุนลงแรงมาก หันมาว่าจะสร้างจุดแข็งอะไรได้บ้างที่จะใช้ดึงลูกค้า

คู่แข่งกลุ่มที่สอง – ได้แก่คลินิกรักษาโรคทั่วไป ที่หันมาทำบริการความงามเพื่อเสริมรายได้ หมอเวชกรรมไปเรียนเพิ่มเทคนิกเสริมความงามเและหาเครื่องมือใหม่ๆเข้าคลินิก จัดเป็นกลุ่มใหญ่ของตลาด จะมีบริการพื้นฐาน ขายไม่แพง  เน้นลูกค้าประจำที่อยู่ในละแวกที่ต้องการความสะดวก

ชั่วโมงนี้จะเปิดคลินิกเสริมความงามระดับกลางๆ มีแต่ของพื้นๆจะโดนบีบจากคู่แข่งสองกลุ่มนี้ แย่งลูกค้าทั้งหัวท้าย แก้ได้ด้วยการศึกษาคู่แข่งและออกแบบจุดขาย specialty คลินิก จุดนี้สำคัญที่สุด หากไม่มี โอกาสเจ๊งสูง ทุกวันนี้เป็นยุคของความเชี่ยวชาญพิเศษ โฟกัสเก่งเรื่องเดียวก็พอแล้ว  ทำการตลาดให้ลูกค้าจดจำได้ง่าย ไม่ต้องแข่งขันด้วยการลดราคา

ข้อ 4 ต้องวางแผนการเงินล่วงหน้า สายป่านต้องยาว

สูตรหายนะก็คือไม่มีแผนการเงินที่อิงความเป็นจริง อย่าตั้งความหวังว่าเปิดแล้วจะมีรายได้เร็วมาเลี้ยงคลินิก ต้องเตรียมแผนเล่นเกมยาวและต้องคำนึงถึงต้นทุนเรื่องเวลา หมอที่ไม่เคยเปิดคลินิกของตัวเอง รวมถึงเจ้าของคลินิกมือใหม่ส่วนใหญ่จะพลาดจุดนี้ เพราะไม่รู้ต้นทุนแท้จริงที่แอบแฝงของการทำคลินิก ไม่ได้สำรองเงินทุนหมุนเวียนที่เพียงพอ ถ้าเงินหมดนี่ก็เจ๊งทันที เหมือนรถยนต์จะดีแพงแค่ไหนถ้าน้ำมันหมดก็จอด

คลินิกรายใหม่ๆ ถึงมีจะการวางแผนที่ดี มีทีมหมอ และมีงบบุกตลาดเต็มที่ ก็ต้องใช้เวลานับปีกว่าจะติดตลาด การจะไปแชร์ตลาด ต้องมีแผน บวกเงิน ความอดทนและเวลา บางครั้งต้องมีโชคช่วยด้วย ดังนั้นต้องรู้ต้นทุน มีแผนการเงิน มีงบการตลาด และมีกระแสเงินสดหมุนเวียนที่สามารถงคงสภาพคล่องในช่วงปีแรกของการลงทุนให้ได้เป็นอย่างน้อย เปิดมาใหม่ๆอาจจะมีช่วงฮันนีมูน มีเพื่อน คนรู้จัก หรือหมอช่วยดึงลูกค้าเก่ามาให้ แต่ก็ได้แค่แป๊ปเดียว จากนั้นต้องหาลูกค้าใหม่ ซึ่งกว่าจะปรับแนวของทางคลินิกให้เข้าที่ลูกค้าเริ่มรู้จักและเชื่อถือต้องใช้เวลาไม่มีทางลัดซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นต้องคิดเรื่องต้นทุนด้านเวลาว่าประเมินการสร้างยอดขายไว้อย่างไร

ข้อ 5 ต้องทันเกมทันเกม การตลาดคลินิกความงาม

ตลาดนี้มีความพิเศษเฉพาะตัวหลายอย่าง เสริมสวยบวกกับการแพทย์ ดังนั้นการขายและ การตลาด มีวิธีการที่ต่างกับธุรกิจอื่นมาก คลินิกใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือทางการตลาดมากมาย  ทำออนไลน์ไปตามกระแส อาจจะจ้างเอเจนซี่การตลาดมาช่วย หรือทำเองโดยส่งทีมไปเข้าคอร์ส เสียเงินมาก และเสียเวลา แต่ไม่ได้ผล เพราะไม่รู้แนวทางที่ถูกต้อง

  • ใช้แต่กลยุทธ์โปรโมชั่นลดราคาตลอดเวลา 
  • ไม่มีความรู้วิธีทำการตลาด
  • ประหยัดไม่ลงทุนเรื่องเนื้อหาทำคอนเท้นเลียนแบบคลินิกอื่น

หลายคลินิกใช้บริการนายหน้าเอเจนซี่หาลูกค้า หรือใช้จ้างเนทไอดอล บล็อกเกอร์มารีวิวแลกทำฟรี เพราะไม่ต้องควักกระเป๋าไปก่อน หรืออาจจ่ายคอมมิชชั่นหรือค่าจ้าง แต่กลุ่มจะนี้ทำการตลาดผ่านช่องทางตัวเองที่มีอยู่ รับจ็อบทำให้หลายคลินิก ต้องระมัดระวังเพราะควบคุมได้ยาก มีความเสี่ยงทำภาพพจน์คลินิกเสียหาย หรือผิดกฎหมายได้ ทำแล้วอาจจะได้ไม่คุ้มเสีย

คลินิกที่สร้างยอดขายไม่ได้หากไม่มีเงินสำรองในการหมุนเวียน  จะขาดสภาพคล่องทางการเงิน มีผลเป็นลูกโซ่ทำให้หมอหรือทีมงานอาจไม่อยู่ด้วย

การขายเป็นหัวใจของการค้าที่ทุกธุรกิจ ที่ใช้เทคนิกแตกต่างกันไป ธุรกิจคลินิกความงามก็เช่นกัน มีเทคนิกของตัวเอง ดังนั้นต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง หากจะทำธุรกิจนี้ต้องศึกษาให้รู้ถ่องแท้ทั้งหลักการและเครื่องมือที่ต้องใช้ในการขาย

ก่อนลงสนามทำธุรกิจคลินิกความงาม ต้องดูว่าเรามีจุดอ่อนอันไหนที่ตรงกับห้าข้อที่ว่ามานี้ การลงทุนทำคลินิก ไม่ใช่บาทสองบาท มีต้นทุนดำเนินการสูงมาก ไม่ระวังเผลอแป๊ปเดียวอาจล่มจมสูญเป็นสิบล้าน จะต้องมีแผนว่าคลินิกหารายได้ด้วยวิธีใดบ้าง อะไรคือจุดขายเด่นที่ใช้ดึงดูดลูกค้า  คนส่วนใหญ่ที่คิดเริ่มต้นทำคลินิก จะไปกังวลยึดติดกับเรื่องการขอใบอนุญาต การจ้างหมอ การซื้อเครื่องมือ และตบแต่งคลินิกซึ่งปัญหาเหล่านี้จัดการได้ไม่ยากเพราะมีกระบวนการที่ชัดเจนหรือใช้เงินซื้อได้ การเปิดคลินิกก็ไม่ต่างจากธุรกิจอื่น คือต้องหาลูกค้าให้เพียงพออย่างต่อเนื่องที่จะเลี้ยงธุรกิจให้รอดเป็นหัวใจหลัก

115/10 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร 10300

Hotline 081-8058663

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    4 + 11 =