อยากเปิดคลินิกความงามต้องลงทุนเท่าไหร่

อยากเปิดคลินิกความงามต้องลงทุนเท่าไหร่

คลินิกความงามมีโครงสร้างธุรกิจที่ไม่ต่างจากธุรกิจบริการอื่นๆ ที่มี ค่าสถานที่ ค่าของ ค่าแรง ดังนั้นการประมาณการงบลงทุนเพื่อเปิดคลินิกความงามทำได้ง่าย ใครอยากลงทุนหลักแสนหรือหลักสิบล้านก็ทำได้ทั้งนั้น

อยากเปิดคลินิกความงามต้องลงทุนเท่าไหร่ ต้องเริ่มต้นอย่างไร เป็นคำถามที่คนสงสัยอยากรู้คำตอบมากที่สุด เพราะคลินิกเสริมความงามจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจทำเงินอันดับต้นๆ ทำให้มีคนจำนวนมากต้องการเปิดทำธุรกิจนี้ ที่มีตั้งแต่ แพทย์ นักลงทุน รวมถึงผู้ที่ชอบใช้บริการบ่อยๆ

ในบทความนี้จะให้หลักการวางแผนลงทุนคลินิกความงามที่ง่ายที่นำไปใช้ได้ทันที ที่มีดังต่อไปนี้
1.ขั้นตอนการวางแผนลงทุนคลินิกความงามที่ถูกต้อง
2.งบการลงทุนว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง
3.งบค่าใช้จ่ายประจำต่างๆ
4.เงินทุนหมุนเวียน
5.ตัวเลขงบลงทุนจากเจ้าของคลินิกที่มีประสบการณ์

เรื่องแรกในการทำแผนธุรกิจคือต้องศึกษาตลาด

คลินิกเสริมความงามเป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนมาก แต่จะกำเงินมาอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องทำแผนธุรกิจจะได้รู้ภาพรวมของธุรกิจ รวมถึงเงินที่ต้องใช้ในการลงทุน และระยะเวลาในการคืนทุน

อันดับแรกคือจำแนกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ เพศ วัย เชื้อชาติ ความต้องการ ปัญหาผิวพรรณ ชะลอวัย ลดสัดส่วนพฤติกรรม และกำลังซื้อ เพื่อหาบริการที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

ศึกษาข้อมูลคลินิกในพื้นที่ มีบริการอะไรบ้าง ขายดีไหม กลุ่มลูกค้าคือใคร อะไรที่เขายัง ไม่มีที่เราสร้างจุดขายได้ ศึกษาจุดแข็ง จุดอ่อน แนวโน้มของตลาด รวมถึงความเสี่ยง บริการอะไรที่เราต้องมี เพื่อวางแผนโครงสร้างธุรกิจของเรา ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรกเพราะมีผลกับงบลงทุนและการทำธุรกิจในระยะยาว เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ธุรกิจที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะผิดพลาดขั้นตอนนี้

การวางแผนลงทุนคลินิกความงามไม่ยาก

ธุรกิจนี้มีโครงสร้างไม่ต่างจากธุรกิจบริการอื่นๆ ที่ประกอบด้วย ค่าสถานที่ ค่าจ้าง ค่าอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลืองต่างๆ อย่างไรก็ตามคลินิกความงามที่ส่วนใหญ่มีรูปแบบบริการที่ใกล้เคียงกัน แต่การลงทุนอาจเริ่มตั้งแต่หลักล้านต้นๆ จนถึงหลายสิบล้านก็ได้ ซึ่งจะลงทุนมากหรือน้อยกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการคือตัวกำหนดว่างบการลงทุนจะประกอบด้วยอะไรบ้าง

โครงสร้างพื้นฐาน

งบในการลงทุนจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคืองบในการสร้างคลินิกจนพร้อมที่จะเปิดบริการได้และส่วนที่ 2 คืองบที่ต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจและเงินทุนหมุนเวียนในช่วงแรกจนกว่าจะมีรายได้พอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้

เราจะพูดถึงงบประมาณงบประมาณส่วนแรกก็จะมี

งบสถานที่ของคลินิก ซึ่งจะขึ้นกับทำเลและขนาดของพื้นที่
คลินิกความงามส่วนใหญ่จะมีขนาดประมาณ 80 จนถึง 100 ตารางเมตร ถ้าอยู่ในทำเลใจกลางเมืองมีลูกค้ากำลังซื้อสูง ค่าเช่าก็จะมีราคาสูง ที่จะคิดเป็นต่อตารางเมตร อีกทั้งแล้วแต่ว่าคลินิกอยู่ในห้างหรือ community Mall หรือใช้ตึกแถวทำคลินิกราคาค่าเช่า ค่ามัดจำ และเงินประกันต่างๆก็จะแตกต่างกันไป ที่เริ่มต้นได้แต่หลักหมื่นถึงหลักหลายแสนบาทต่อเดือน

งบในการตกแต่งคลินิก คลินิกความงามเป็นบริการเรื่องสวยๆงามๆ ก็จำเป็นต้องตกแต่งสถานที่ให้ดูสวยงาม บรรยากาศดี สะดุดตาดึงดูดลูกค้า การตกแต่งหน้าร้านและภายในคลินิกจะหน้าตาหรูหรา ราคาแพง สะดวกสบายแค่ไหน ขึ้นกับว่าจะเจาะตลาดลูกค้ากลุ่มไหน

คลินิกที่อยู่ในห้างหรือคอมมิวนิตี้มอลล์ มักจะถูกจัดให้ไปรวมกลุ่มอยู่ในโซนคลินิก ที่จะเปิดใกล้ๆกันหลายร้าน ทำให้การตกแต่งหน้าร้านต้องไม่ดูด้อยกว่าคลินิกอื่น ยิ่งถ้าอยู่ในห้างหรูที่ลูกค้ามีกำลังซื้อสูง งบตกแต่งภายในก็จะสูงขึ้นตามเกรดของลูกค้า เพราะหน้าตาของคลินิกมีผลต่อราคาขายและการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

ถ้าใช้ตึกแถวทำคลินิก อาจไม่ต้องลงทุนค่าตกแต่งภายในมาก จะมีเพิ่มลงทุนการแต่งภายนอกทำป้ายหน้าร้านที่มีขนาดใหญ่ให้ดูเด่นสะดุดตาคนที่สัญจรไปมา

การตกแต่งคลินิกจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน เป็นหน้าร้านประมาณ 25 ถึง 30 เปอร์เซ็น และส่วนที่เหลือใช้เป็นพื้นที่บริการ งบส่วนใหญ่จะใช้ในการตกแต่งหน้าร้านและพื้นที่ใช้การทำการขาย ส่วนด้านในที่เป็นใช้ในการให้บริการไม่จำเป็นต้องตกแต่งมาก ก่อนจะออกแบบตกแต่งภายในต้องรู้ระเบียบของทางสาธารณสุข จะได้ทำให้ถูกต้องได้ตั้งแต่ต้น ไม่มีปัญหาตอนขออนุญาต เมื่อเจ้าหน้าที่มาตรวจจะได้ให้ผ่านและไม่ต้องรื้อแก้ไขทำให้ต้องเสียเงินโดยไม่จำเป็น
ทางที่ดีควรหานักออกแบบตกแต่งที่มีประสบการณ์ทำคลินิกความงาม ที่จะประเมินงบงานออกแบบและก่อสร้างจากราคาตลาด และจะคุมงบไม่ให้บานปลายได้ดีกว่า

เรื่องต่อมาก็คืองบที่จะใช้ซื้อเครื่องมือแพทย์และ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการรักษา
คลินิกผิวหนังพื้นฐาน กึ่งร้านเสริมความงาม ที่เน้นขายหัตถการ ฉีดสารต่างๆ และทำทรีทเมนต์ งบที่จะใช้ก็เพียงแค่ ซื้อสต๊อกยาและวัสดุสิ้นเปลืองอื่นๆที่ใช้ประกอบการรักษา งบลงทุนเรื่องอุปกรณ์ไม่มาก คลินิกแบบนี้จะใช้เงินลงทุนน้อยที่สุด

ถ้าเป็นคลินิกความงามที่มีการรักษาเฉพาะทาง หรือจับลูกค้ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง จะใช้เครื่องเลเซอร์หรือเครื่องอัลตราซาวด์ให้บริการ ราคาเครื่องมีตั้งแต่หลายแสนถึงหลายล้านบาท คลินิกแบบนี้ก็จะให้บริการที่หลากหลายกว่า ทำให้งบที่ต้องใช้ในการลงทุนจะสูง แต่ในระยะยาวมีโอกาสทำเงินได้มากกว่า คลินิกผิวหนังพื้นฐาน

ถ้าทำคลินิกศัลยกรรมจะใช้ห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ต่างๆ สุดแล้วแต่ว่าทำศัลยกรรมอะไรบ้าง ถ้าเป็นการผ่าตัดย่อยที่มีตั้งแต่ ทำตา ทำจมูกการลงทุนก็ไม่มาก จนถึงศัลยกรรม เสริมหน้าอก ดูดไขมัน คลินิกแบบนี้ก็จะลงทุนมากขึ้น

และท้ายสุดก็คืองบจัดซื้ออุปกรณ์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ และสิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ต้องใช้ในการขายและการทำธุรกิจ

สรุปคืองบการลงทุนคลินิกความงามเริ่มได้ตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลายสิบล้านบาท ที่จะขึ้นอยู่กับรูปแบบของคลินิกและกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรวมถึงทำเลที่ตั้ง และจำนวนของบริการการรักษาที่มี
ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องสรุปได้การวางแผนธุรกิจก่อนลงทุน

เงินทุนหมุนเวียน

การวางแผนธุรกิจคลินิกความงาม นอกจากการกำหนดงบประมาณลงทุนขั้นต้นในการสร้างคลินิกและอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ มีจุดสำคัญที่มักถูกมองข้ามซึ่งจะมีผลกับความอยู่รอดของธุรกิจในระยะยาว คือการวางแผนทุนสำรองกระแสเงินสดที่จะใช้หมุนเวียนในการทำธุรกิจ
การทำคลินิกความงามไม่แตกต่างจากธุรกิจอื่น เงินทุนหมุนเวียนถือเป็นหัวใจหลักที่กำหนดความอยู่รอด ผู้บริหารต้องตระหนักว่าคลินิกความงามมีต้นทุนค่าการดำเนินการที่สูง ยิ่งถ้าเป็นคลินิกที่เปิดใหม่จำเป็นต้องมีสายป่านที่ยาวพอสมควร เพราะกว่าจะถึงจุดมีรายได้พอที่จะเลี้ยงตัวได้อาจต้องใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้นหากเงินหมุนเวียนขาดมือ แป๊บเดียวอาจเงินช็อตหลายล้าน ทำให้ให้ธุรกิจล้มครืนทันทีได้ การไม่ได้วางแผนเรื่องเงินทุนหมุนเวียนตั้งแต่แรก เป็นอันตรายเพราะเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้คลินิกจำนวนมากประสบความล้มเหลว
มีคุณหมอเป็นจำนวนมากที่ทำงานประจำรายได้ต่อเดือนหลายแสนบาท แต่พอหันมาลงทุนเปิดคลินิก ไม่ได้วางแผนเงินทุนหมุนเวียน มาเจอปัญหาทำยอดขายไม่พอกับรายจ่าย ทำให้ต้องเอารายได้ได้จากงานประจำมาเลี้ยงกิจการ เป็นเจ้าของกิจการแทนที่จะทำเงินกลับกลายเป็นเข้าเนื้อ
เพราะฉะนั้นสำคัญมากที่จะต้องรู้ต้นทุนที่แท้จริงของธุรกิจ และต้องวางแผนประมาณการรายรับและรายจ่ายของธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเงินสดในมือเพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และยืนระยะได้ หากทำรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย

การวางแผนเงินทุนหมุนเวียนอันดับแรกก็ต้องมาดูก่อนว่า ค่าใช้จ่ายประจำของคลินิกความงามมีอะไรบ้าง

ค่าเช่า ค่าผ่อน สถานที่ อาคาร ซึ่งใช้จ่ายก็ขึ้นกับทําเลที่ตั้งและขนาดพื้นที่คลินิก ที่มีตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลายแสนบาทต่อเดือน
ค่าจ้างแพทย์ประจำ แขวนป้ายหรือพาร์ทไทม์ บุคลากร เช่นผู้ช่วยแพทย์ เทอราปิสท์ รวมถึงพนักงานต้อนรับ พนักงานฝ่ายขาย และธุรการ
ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าสื่อสาร ค่าพื้นที่ส่วนกลาง ค่ากำจัดขยะ
ค่าการตลาด โฆษณา ออนไลน์ออฟไลน์ต่างๆ
ค่าบริการวิชาชีพอื่นๆ ที่ต้องจัดจ้าง เช่นแพทย์ที่ปรึกษา นักบัญชี กฎหมาย
จะเห็นว่าการทำคลินิกเสริมความงามมีค่าใช้จ่ายประจำอย่างน้อยหลายแสนบาทต่อเดือน ยิ่ง ถ้าเป็นคลินิกที่มีขนาดใหญ่ค่าใช้จ่ายอาจวิ่งได้ถึงหลักหลายล้านต่อเดือน หากยอดขายไม่พอครอบคลุมค่าใช้จ่าย เผลอแป๊บเดียวอาจเงินช็อตหลายล้านได้ การแก้ปัญหาด้วยการตัดค่าใช้จ่าย หรือการทำโปรโมชั่นลดราคาเพื่อดึงกระแสเงินสด ทำได้ยากและอาจไม่ทันการณ์ อาจทำให้ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อกอบกู้ ดังนั้นการมีเงินในมือจะช่วยให้สามารถปรับแผนได้ทันสถานการณ์

ถึงแม้คลินิกความงามมีต้นทุนในการดำเนินการสูง แต่หากทำจนติดตลาดได้ จะคืนทุนเร็วดังนั้นเจ้าของคลินิกควรมีเงินทุนสำรองที่จะสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่อเดือนให้เพียงพอที่จะทำธุรกิจในช่วงเงินสดของติดลบให้ได้ประมาณ 1 ปีจึงจะปลอดภัย เพราะในกรณีทำรายได้ไม่ตรงเป้าหมายที่วางไว้ก็ยังสามารถที่จะปรับแผนธุรกิจและการตลาดที่จะประคองธุรกิจให้อยู่รอดจนถึงจุดที่ทำเงินได้

115/10 ถนนสุโขทัย แขวงดุสิต เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร 10300

Hotline 081-8058663

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

    4 + 6 =